การทำงานของระบบกรองน้ำแบบ Reverse Osmosis (RO) เป็นกระบวนการที่ประกอบด้วยหลายขั้นตอนซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อลดปริมาณสารละลายและสิ่งเจือปนที่อยู่ในน้ำ. ต่อไปนี้คือขั้นตอนการทำงานของระบบกรองน้ำ RO แบบละเอียด:
1. **การเตรียมน้ำดิบ (Pre-treatment):**
- น้ำดิบจะผ่านท้งกรองตะกอนแรกเพื่อกำจัดเศษวัสดุขนาดใหญ่ เช่น ทราย, สนิม, และแขวนลอยอื่นๆ.
- ตามมาด้วยตัวกรองคาร์บอนในการลดระดับของสารอินทรีย์และคลอรีนที่อาจทำลายเมมเบรน RO.
2. **ปั๊มแรงดันสูง (High-Pressure Pump):**
- ปั๊มแรงดันสูงจะเพิ่มแรงดันในน้ำให้สูงพอที่จะอำนวยให้น้ำผ่านเมมเบรน RO และกระทบกับขั้นตอนกรองต่อไป.
3. **การกรองด้วยเมมเบรน RO:**
- เมมเบรน RO ประกอบด้วยเมมเบรนที่มีรูพรุนขนาดเล็กจริงๆ (ประมาณ .0001 ไมครอน) ซึ่งแรงดันน้ำจะขับน้ำผ่านเมมเบรนนี้ ขณะปล่อยสิ่งเจือปนหยุดอยู่ฝั่งหนึ่ง.
- สิ่งเจือปนจะถูกกักกันบนพื้นผิวเมมเบรนและจะถูกชะล้างออกเป็น "น้ำทิ้ง" หรือ "concentrate".
4. **การฆ่าเชื้อ (Disinfection):**
- หลังจากกรองด้วย RO น้ำบางส่วนอาจผ่านไปในระบบฆ่าเชื้อ เช่น ระบบ UV หรือระบบออกซิเดชั่นเพิ่มเติมเพื่อกำจัดเชื้อโรคที่เหลืออยู่.
5. **การจัดเก็บและ/ปรับปรุงคุณภาพน้ำหลังเมมเบรน (Post-treatment):**
- ล้างด้วยตัวกรองคาร์บอนหลังเมมเบรน เพื่อเอากลิ่น และรสที่ไม่ต้องการออกจากน้ำ.
- ปรับ PH ด้วยการเติมแร่ธาตุหรือสารเคมีอื่นๆ เพื่อกำจัดอิสระความเป็นกรดหรือด่างของน้ำ.
- ถังเก็บรักษาวางเพื่อซึ่งน้ำปลอดภัยก่อนที่จะถูกจับจ่ายออกไปใช้งาน.
6. **ตรวจสอบคุณภาพน้ำ:**
- การตรวจจับการไหลของน้ำ, การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของกระบวนการ, และการทดสอบคุณภาพน้ำเป็นส่วนสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำที่ได้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้.
นี้คือกระบวนการของระบบกรองน้ำ RO จากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ. อย่างไรก็ตามเดทเทลเฉพาะอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการใช้งานของระบบ RO ที่แต่ละสถานที่.